2017年06月02日
What bring me here
〜Noo の、はじめての東京一人旅〜
〜ฉายเดี่ยวเที่ยวโตเกียวครั้งแรกของหนู〜
こんにちは。モノサスタイランドの Noo(ヌー)です。モノタイで Admin 系の仕事をしています。この度、初めて日本で一人旅をしたことについてものさすサイトで投稿する機会をいただきました。
今回は、どうして私が日本を旅することにしたのか、そして旅の様子、日本への印象をお話したいと思います。
สวัสดีค่ะชื่อหนูทำงานในส่วนAdminโมโนสัสไทยค่ะ วันนี้ได้รับโอกาสจากมิยาคาว่าซังเขียนบทความเกี่ยวกับประสบการณ์การไปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก จึงอยากมาเล่าความประทับใจให้ฟังค่ะ
Noo は何しに日本へ?
หนูมาทำอะไรที่ญี่ปุ่นเหรอ ?
前の職場にいた頃、私は毎日同じような業務を繰り返す日々の生活に、飽きていました。
自分の身の安全のため、危ない場所や危なそうな人には近寄らないように気をつけていましたが、日常生活で気をつけすぎることがだんだん嫌になってきて、自分がやったことがないことをやってみたいと思うようになりました。今の時代はインターネットの影響で新しいことに挑戦しやすい気がしました。
去年、5年間働いていた会社を辞めて新しい仕事にチャレンジしようとモノサスタイランドに入り、以前からやってみたいと思っていたことにもトライしてみました。
まずは、真剣に絵を習いはじめました。似顔絵や油絵、水彩画、色鉛筆画も描いてみました。一番好きなのは水彩画です。透明水彩は色を混ぜられますし、絵の具の値段も安いです。
そして、もっと自分に挑戦してみたいと思い、海外で一人旅をすることにしました。
สืบเนื่องจากรู้สึกเบื่อชีวิตที่เป็นอยู่ (เมื่อก่อน) ความเครียดจากการทำงาน หน้าที่ในบทบาทต่างๆ ความรู้สึกต้องทำตัวเองให้ปลอดภัยเพราะคิดว่า ชีวิตตัวเองมีผลกับคนรอบข้าง ความคิดนี้ทำให้ไม่กล้าทำอะไรที่คิดว่าเสี่ยงเกินไป เช่น ไปเที่ยวกลางคืน ไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนต่างกลุ่ม จนเวลาล่วงเลยมา จึงคิดได้ว่าชีวิตที่มีความปลอดภัยไม่ใช่ชีวิตที่เราต้องการ รวมทั้งอิทธิพลจากสื่อร่วมสมัยไม่ว่าจะเป็นทางอินเทอร์เน็ต หนังสือ หรือเเม้เเต่บุคคลที่เราชื่นชอบล้วนเเล้วเเต่กระตุ้นให้คนรุ่นใหม่อย่างเราออกไปทำในสิ่งที่ท้าท้ายกว่า ลองทำอะไรที่ยังไม่เคยได้ทำ จึงเริ่มเมื่อต้นปีก่อน ลาออกจากงานบริษัทเก่าที่ทำมากว่า5ปี ได้เข้ามาทำงานในโมโนสัสไทยก็ได้มีโอกาสลองสิ่งที่อยากลองทำ เช่น เรียนวาดรูปอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นการวาดเส้น การวาดภาพเหมือน ทดลองใช้สีน้ำสีน้ำมันเเละสีไม้ เพื่อค้นหาการใช้สีที่ตัวเองถนัด ซึ่งสีที่ชอบคือสีน้ำค่ะ เพราะว่าเป็นสีโปร่งเเสง สามารถผสมสีเเปลกๆ หรือสีเหมือนวัตถุธรรมชาติได้ สามารถสร้างเทคนิคของภาพได้ไม่ค่อยยากเเละสีมีราคาไม่เเพง ทำในสิ่งที่ท้าทายความสามารถและความสะดวกสบายและมีสิ่งหนึ่งที่อยากลองทำคือท่องเที่ยวต่างประเทศด้วยตัวเองซักครั้งค่ะ
今回の一人旅は、大好きな日本という国にしました。日本には過去にも行ったことがありますが、桜を見たことがありませんでした。日本の文化は面白いからとても好きです。初めての一人旅は、桜も見たいので3月下旬の東京周辺にしました。
私が住むタイという国は一年中暑い国です。気温は30〜37℃くらいです。もちろんコートは必要ありません。日本へ行く前に天気予報を確認すると寒くないと書いてありましたが、初日は4℃くらいで一日中雨が降りました。日本の寒さに慣れてない私は本当に大変でした。身体も動きませんでした。このままだと楽しくないと思い、仕方なくコートを買ってしまいました。
ประเทศแรกคือประเทศที่รักคือญี่ปุ่นค่ะ ถึงแม้จะเคยไปแล้วแต่ยังไม่เคยเห็นดอกซากุระ ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมหลากหลายที่ยังคงชอบและยังน่าสนใจอยู่เสมอ แต่เนื่องจากเป็นการเที่ยวด้วยตัวเองครั้งแรกจึงเลือกไปช่วงปลายเดือนมีนาคมจะได้ไปดูดอกซากุระที่โตเกียวและเมืองรอบๆค่ะ เมืองไทยเป็นเมืองที่อากาศร้อนแทบตลอดทั้งปี อุณภูมิเฉลี่ยบางที 30-37 องศา เสื้อกันหนาวปกติไม่ใช่สิ่งจำเป็น ก่อนมาญี่ปุ่นตรวจสภาพอากาศแล้วน่าจะไม่เย็นมาก แต่ปรากฏว่าหนาวมากอุณภูมิถึง 4 องศา แถมมีฝนตกโปรยปรายทั้งวันอีก เจอสภาพอากาศแบบนี้พูดได้เลยว่าลำบากสุดๆ ร่างกายสุดจะรับได้ ถ้าไม่ซื้อเสื้อโค้ทใส่ตอนออกไปข้างนอกคงจะหนาวสั่นและไม่สนุก เลยจำเป็นต้องซื้อเสื้อโค้ทอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
1日目 秋葉原でガチャポンに熱中
วันที่ 1 เพลินอยู่กับตู้กาชาปองที่อากิฮาบาระ
1日目、ホテルは秋葉原にあるカプセルホテルにしました。秋葉原には変わった人がいっぱいいるらしいです。友達に痴漢に気をつけなさいと言われましたが、私はそんなことはあまり気にしません。(痴漢されたいのかな?!笑)
雨が降っていたので、屋根のあるところで遊びました。ホテルからヨドバシカメラが近かったので毎日行って毎日買い物しました。他の場所へ行く前に毎日ヨドバシに寄りました。(暇すぎました。笑)そこでブラブラしながら何をするかどこへ行くか考えました。そこは毎日行ってもなかなか飽きませんでした。免税手続きも出来ますし、とても気に入りました。
ガチャポンもしました!私は小さなキャラクターを集めています。日本に来たら必ずガチャポンをやります。タイにもガチャポンがありますが、とても高いです。1回120バーツ(約400円)もかかります。タイにあるガチャポンはちょっとしかありません。でも秋葉原はどこでもあります。私は動物のキャラクターが好きです。特に猫が大好きです。タイでガチャポンをやっている人は子供しかいませんが、日本では学生も会社員もやっていますね。皆は自分の好きなキャラクターをゲットできたら、幸せそうな顔をしていました。
วันเเรก เลือกที่พักเป็นโรงแรมแบบแคปซูลย่านอากิฮาบาระ ตอนที่จองที่พักย่านนี้มีแต่คนบอกว่ามีคนแปลกๆ อยู่เยอะๆ ต้องระวังโดนลวนลาม เเต่กลับรู้สึกเฉยๆ (หรือเราจะโรคจิตกว่า 55) ด้วยความที่ฝนตกจึงจำเป็นต้องไปเที่ยวที่ที่มีหลังคา ที่พักใกล้ห้างโยโดบาชิมาก ชอบแวะก่อนไปที่เที่ยวที่อื่นทุกวันหรือไม่ก็ตอนขากลับ(อาจจะเพราะว่างเกินไป55) ไปเดินดูของเเล้วก็คิดว่าวันนี้จะทำอะไรหรือไปไหนดีที่นี้ไปได้ทุกวันและก็ได้ของทุกวัน ราคาสินค้าไม่คิดค่าภาษีด้วยถูกใจมากๆค่ะ ชอบสะสมตุ๊กตาตัวเล็กๆที่มาจากที่ต่าง ๆ ถ้ามาญี่ปุ่นก็ต้องมากดGachapong ที่เมืองไทยมีตู้เหมือนกันค่ะเเต่เเพงมากหยอดครั้งละ120บาทเเละมีให้เลือกไม่เยอะ เมื่อเทียบกับญี่ปุ่นตู้เยอะมากอีกทั้งเป็นย่านอากิบะมีทุกมุม มีให้เลือกเยอะมากกก ชอบตู้หมุนที่เป็นรูปสัตว์โดยเฉพาะเเมวค่ะ ท่าทางมันกวนๆดี ที่สังเกตุเห็นคือที่เมืองไทยGachapongจะมีเเต่เด็กหรือไม่ก็คนทีชอบการ์ตูนเเละอาจถูกมองว่าเป็นเรื่องของเด็กๆ เเต่ที่ญี่ปุ่นคนที่มากดมีทุกเพศทุกวัย หญิงสาววัยใสนักเรียนไปจนถึงพนักงานบริษัทสูงวัย ทุกคนพอหมุนการ์ตูนที่ตัวเองชอบพอลูกบอลกลิ้งออกมาก็ยิ้มอย่างพออกใจกันทุกคน
2日目 お花見のあとはティツィアーノの絵画の前で夢心地
วันที่ 2 ชมดอกไม้และเพลิดเพลินไปกับภาพของทิเซียโน
2日目、いい天気でした。上野公園へ桜を見に行きましたが、桜はまだあまり咲いていませんでした。(寒いからかな⁈)上野公園はタイ人にとても人気なところです。そこではタイ人ばかりでした。上野公園は東京の有名なところですが、タイだとルンピニ公園が有名です。ルンピニ公園には木の枝にトカゲがいます。(笑)上野公園には人が大勢いました。大体外国人でした。カップルや団体で遊びに来ている人たちが多く、ちょっと寂しくなってきました。でも仕方がありません!できるだけ、日本の美しい雰囲気を感じたいです。
วันที่ 2 อากาศดีฟ้าเปิดจึงไปสวนอุเอะโนะเพื่อชมซากุระ สวนนี้จะเป็นที่ที่คนไทยชอบมา คงได้เห็นคนไทยเยอะเลย สวนอุเอะโนะเป็นสวนสาธารณะยอดนิยมของโตเกียว ถ้าที่กรุงเทพฯก็คงจะเป็นสวนลุมพินีซึ่งพิเศษตรงมีตัวเหี้ยที่สามารถปืนขึ้นไปนอนบนต้นไม้ได้ 55 ซากุระก็ยังบานไม่มาก (ก็แน่ล่ะหนาวขนาดนี้ แม้แต่ซากุระก็บานไม่ไหว) พอมาถึงคนเยอะมากๆ ค่ะ ส่วนใหญ่ก็เป็นชาวต่างชาติ คนญี่ปุ่นบ้าง มากันกลุ่มเพื่อน หรือมากันเป็นคู่ๆ ก็รู้สึกเหงาขึ้นมาเหมือนกัน แต่ก็คิดว่าเรานิก็เก่งเหมือนกันนะเดินคนเดียวท่ามกลางบรรยากาศดีๆ แบบนี้ต้องดื่มด่ำให้เต็มที่ !
公園の中に屋台がいっぱい並んでいました。焼きイカや焼き魚など。全部美味しそう!桜がデザインされた缶が売ってあって桜のドリンクだと思って買いましたが、生ビールでした。生ビールを飲みながら、イカ焼きを食べて桜や道行く人を眺めました。
ในสวนมีจัดพื้นที่สำหรับขายอาหารที่น่าจะกินในฤดูใบไม้ผลิอาทิเช่น ปลาหมึกย่าง ปลาย่าง น่ากินแบบนี้ก็จัดไปอย่าให้เสียค่ะ นี่ก็ไปซื้อน้ำกระป๋อง เห็นมีรูปซากุระเลยคิดไปว่ามันต้องเป็นน้ำซากุระเเน่ๆ เเต่พอดื่มเท่านั้นเเหล่ะ เบียร์สด เลยได้เมาเเบบไม่ได้ตั้งใจเเต่เช้าเลยย ดูดอกไม้ไปกินปลาหมึกไปดื่มเบียร์ไปและได้เดินดูผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาแถวนั้น
見たことがないものもありました。例えば、キュウリを串に刺したもの!でももうお腹いっぱいで食べれませんでした。美味しいものを食べながらお花を見れたのは最高でした。
ที่แปลกไม่เคยเห็นคือแตงกวาเสียบไม้ ทาอะไรสักอย่างไม่ได้ลองเพราะจุก ได้กินอาหารอร่อยๆท่ามกลางหมู่ดอกไม้อย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน
お花見が終わってから、動物園か東京都美術館に行こうか悩みました。動物が好きですが、檻の中で窮屈に苦しんでいる動物がかわいそうで、行きませんでした。
結局美術館に行きました。東京都美術館ではティツィアーノ・ヴェチェッリオの展覧会がありました。ティツィアーノは16世紀のイタリアの有名な画家です。作品は肖像、風景、古代神話、宗教など。初めて生で世界の有名な画家の作品を50枚も見れました。本当に感動しました。
各作品は色んな木彫りの額に掛かっていました。私は絵から1mしか離れませんでした。絵の細部も見れました。とても近かったです。特に肖像画を見たときは、絵の中の人物に見られているように感じました。ちょっと怖かったです。一番好きな絵は “The Birth of Venus”(ヴィーナスの誕生)という作品です。そのサイズ1.72m × 2.78m。それを見てからそこで昼寝してしまいました。絵が多くて見過ぎで目が疲れてきたのか、生ビールのせいなのか分かりませんでした(笑)
หลังจากเพลิดเพลินจากการมองดูผู้คนแล้ว ลังเลว่าจะไปสวนสัตว์หรือหอศิลปะTOKYO METROPOLITAN ART MUSEUM ถึงแม้จะชอบพวกสัตว์แต่เห็นมันโดนขังอย่างนั้นคงกลับออกมาด้วยความรู้สึกสงสาร เลยเลือกไปหอศิลป์ดีกว่า ถือว่าเป็นความโชคดีของตัวเองมากๆ มาทันนิทรรศการ Tiziano Vecellio ซึ่งเป็นจิตรกรยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาคนสำคัญของประเทศอิตาลีในคริสต์ศตวรรษที่ 16 มีความสำคัญมาก ทางการเขียนภาพสีน้ำมัน เป็นจิตรกรผู้นำความสามารถหลายด้าน ผู้เขียนสามารถเขียนได้ทั้งภาพเหมือนและภาพภูมิทัศน์อันเป็นสองลักษณะที่ทำให้มีชื่อเสียง และการเขียนตำนานเทพ และศิลปะคริสต์ศาสนา ได้ชมภาพจริงที่มีชื่อเสียงกว่า 50 ภาพ เป็นครั้งเเรกที่ดูภาพงานศิลปะเเบบจะจะ ภาพดังระดับโลกโดยที่ภาพอยู่ในกรอบไม้เเกะสลักด้วยรูปดอกไม้เทพปกรณัมอย่างวิจิตรบรรจง ระยะห่างระหว่างรูปกับเราห่างกันไม่ถึง 3 ฟุต ใกล้จนสามารถจินตนาการถึงข้อมือที่่ลงฝีเเปรงในเเต่ละจุดในภาพ ยิ่งโดยเฉพาะภาพเหมือน ดวงตามีเเววตาของบุคคลในภาพมองมาทางเรา บางทีก็ทำให้เราใจระทึกได้ค่ะ ภาพทีชอบที่สุดคือ “The Birth of Venus”( กำเนิดวีนัส )ขนาด 1.72 ม. x 2.78 ม.เเต่ไม่รู้เป็นเพราะภาพเยอะมากหรือเมาเบียร์สดเลยไปเเอบนั่งหลับในนิทรรศการ55
3日目 明治神宮の森をぬけて、絵馬に願い事
วันที่ 3 เดินชมธรรมชาติ เขียนป้ายขอพรที่ศาลเจ้าเมจิ
3日目、ホテルを出たのはお昼くらいでした。雨も降っていて寒いし動きたくありませんでした(笑)今日は人気のあるところに行きました。まず、明治神宮に!都心の雄大な森に包まれた神宮です。大きな公園もあるのでそこに決めました。木が多くて気持ちがよかったです。
วันที่สาม กว่าจะออกจากโรงแรมก็เที่ยงกว่า หนาวฝนตกก็ทำให้ขี้เกียจค่ะ 55 วันนี้เป็นวันเที่ยวแบบที่ป็อปๆค่ะ เลยไปศาลเจ้าเมจิค่ะ เห็นว่าเป็นพื้นที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และสวนสาธารณะของเมืองใหญ่อย่างโตเกียวเลยต้องไป บรรยากาศดีมากค่ะ สดชื่นเนืองจากเต็มไปด้วยต้นไม้
入り口には大きな鳥居もありました。行った時は改修中で、全部、見れませんでした。残念でした。でもいつかまた来るから大丈夫です。そのあと絵馬に自分のお願いごとを書きました。
เสาโทริอิไม้ตรงทางเข้าใหญ่มากก พอดีว่าเป็นช่วงที่ศาลเจ้ากำลังปรับปรุงบ้างส่วน ก็เสียดายนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไรเพราะมีความรู้สึกว่าจะได้มาอีกค่ะ ได้เขียนแผ่นไม้ขอพรมาด้วยค่ะ
次は原宿に行きました。若者ばかりでした。原宿でブラブラしました。日本の若者たちは美男美女が多いですね。
จากนั้นจึงไปเดินเล่นที่แหล่งฮิตอย่างฮาราจูกุ วัยรุ่นเยอะมากแน่นมาก เดินดูนู้นนี่ ของแปลกๆเยอะค่ะ ชอบบ วัยรุ่นที่นี้หน้าตาน่ารักที่สุดค่ะ
4日目 鎌倉をお散歩
วันที่ 4 ชิวๆ ณ.คามาคุระ
4日目、今日は鎌倉に行きます。行き方がよく分からないので、迷子になるのが不安でした。でも行きたいので、絶対に行かなければなりません!
秋葉原駅にいたとき、券売機と並んで見慣れない機械がありました!乗換案内の機械でした。私も使ってみました。とても便利でした!タイでもあったらいいなぁ。
江ノ電の路線はとてもキレイでした。家族で旅行している人も多かったです。
วันสี่ไป เมืองคามาคุระค่ะ แอบกลัวหลงนิดนึ่งเพราะดูจากเส้นทางแล้วซับซ้อนเล็กน้อย แต่เป็นเมืองที่ตั้งใจว่าจะไปแล้วต้องไปให้ได้ค่ะ
ตอนที่กำลังจะเข้าไปสถานีอากิฮาบาระ เหลือบไปเห็นเครื่องบอกเส้นทาง แค่กดสถานีต้นทางและสถานีที่จะไป เครื่องก็จะบอกว่าต้องไปต่อรถอย่างไรบ้าง สะดวกและไฮเทคมากๆค่ะ อยากให้เมืองไทยมีแบบนี้จัง รถไฟสายเอะโนะเด็นสวยมากๆค่ะ ผู้คนก็พาครอบครัวมาเที่ยวเยอะ
鎌倉に着いたのは昼過ぎでした。美味しいものを食べないと!
昼食は「ヨリドコロ」というレストランにしました。おすすめメニューの焼き鯵を注文しました。とても美味しかったです!
次は高徳院(鎌倉大仏)に行きました。以前にも行ったことはありましたが、好きなのでまた行きました。高徳院ではイチゴを食べました。そのあと、ブラブラしました。日本は美しい場所が多いですね。
次は鎌倉文学館に行きました。とてもきれいなビルでした。中は日本の画家の展覧会がありました。例えば、夏目漱石や川端康成などです。お花もありましたが、まだ咲いてませんでした。木の下で海を見ながらおにぎりを食べました。幸せでした。
กว่าจะมาถึงก็เที่ยงกว่าเลยต้องหาข้าวเที่ยงอร่อยๆกินหน่อย เลย มาที่ร้านโยริโดโคะโระ อาหารเที่ยงขึ้นชื่อคือปลาอาจิย่าง อร่อยมาก กินเกลี้ยงเลยค่ะ พออิ่มจึงมุ่งหน้าไปวัดพระใหญ่เมืองคามาคูระค่ะ แม้จะเคยมาแล้วแต่ก้ยังประทับใจจนต้องมาอีกครั้ง ใบหน้าพระที่สงบท่ามกลางขุนเขา เหมาะเป็นที่สงบใจมากๆ นิก็ซื้อสตอบอรี่มาด้วยเลยนั่งกินที่นี้ซะเลย พออิ่มจึงไปเที่ยวไปเรื่อยๆ ที่ไหนสวยแวะทุกมุมค่ะ
จนมาถึง Kamakura Museum of Literature บริเวณและอาคารสวย ภายในอาคารเป็นนิทรรศการย่อยนักเขียนญี่ปุ่น ที่มีชื่อเสียงหลายคนเช่น Natsume Soseki, Kawabata Yasunari เป็นต้น ที่ยังเป็นพิพิธภัณฑ์ดอกไม้อีกด้วยแต่ดูเหมือนยังไม่ถึงฤดูจึงยังไม่ค่อยมีดอกไม้เบ่งบานค่ะ นั่งกินข้าวปั้นใต้ต้นไม้ เบื้องหน้าเป็นทะเล คงจะถือได้ว่าเป็นความสุขเหมือนกันค่ะ
5日目 代々木のモノサスへ
วันที่ 5 ไปโยโยงิโมโนสัส
5日目、宮川さん(モノサスタイランド マネージャー)と約束がありました。宮川さんが代々木のモノサスに連れて行ってくれました。緊張しました。3日間しか帰国しないのにわざわざ連れて行ってくれて本当にありがとうございました。タイでは毎日会っていますが、海外で会うのは初めてです。会った時は、彼氏とデートするみたいな雰囲気でした。(笑) 代々木にあるレストランに連れて行ってくれて、美味しいご飯を奢ってくれました。明太子セットにしました。とても幸せでした。
วันที่ห้า มิยาคาว่าซังจะพาไปโมโนสัสญี่ปุ่นค่ะ ตื่นเต้นสุดๆ ทั้งๆที่นายตั้งใจกลับญี่ปุ่นมาเพื่อทำธุระที่บ้านสามวัน ยังอุตส่าห์เสียเวลาตั้งหนึ่งวันพาเรามาเยี่ยมชมบริษัทแม่ ขอบคุณมากๆค่ะหลังจากที่นัดแนะสถานที่ ก็มาเจอนาย เเม้เราคุ้นเคยเจอกันทุกวันที่เมืองไทย แต่นัดแล้วได้มาเจอกันในต่างประเทศนิ ตอนเจอยังกับเจอคนรักเลยค่ะ 55 นายเลี้ยงข้าวร้านอร่อยย่านโยโยกิ อย่างนี้ก็ลาภปากเราค่ะ สั่งเซทเมนไตโกะดังมากก มีความสุขที่สุด
モノサスはとてもおしゃれなオフィスでした!大きなアボカドの木もありました。雰囲気も良かったです。宮川さんはわたしを皆さんに紹介してくれました。コーダー部門、営業部門、デザイナー部門など。皆さん忙しいのに、話してくれてありがとうございました。私は本社の台所が好きです。調味料がいっぱいありました。タイのナンプラーもありました。宮川さんから林さんがスタッフによく料理を作ってあげると聞きました。とても感動しました。
พอมาถึงออฟฟิตสวยเป็นบ้านหลังใหญ่มีต้นอะโวคาโด ภายในมีคนกำลังนั่งทำงานแต่บรรยากาศอบอุ่นค่ะ มิยาคาว่าซัง พาไปแนะนำทุกแผนกเลย ไม่ว่าจะเป็นกับโค้ดเดอร์ เซล แอดมิน แผนกดีไซส์ ทั้งๆที่งานยุ่ง ทุกคนใจดีมาทักทาย มาถามไถ่ ต้องขอบคุณมากๆค่ะ ประทับใจชอบห้องครัวมากๆ ค่ะ เครื่องปรุงเยอะมากคงสามารถทำอาหารแทบทุกชนิดได้ แอบเห็นมีน้ำปลาและก็ซอสถั่วเหลืองไทยด้วย มิยาคาว่าซังเล่าว่า ฮายาชิซัง (ประธานบริษัท)มักทำอาหารเลี้ยงพนักงานเป็นประจำ ประทับใจมากๆค่ะ
はじめての東京一人旅を終えて
ประสบการณ์เที่ยวโตเกียวด้วยตัวเองครั้งเเรก
東京に行く前はいろいろなことが不安でした。迷子になるのか、物価の高い東京で遊べるのか、朝の電車に乗れるのか不安でした。代々木のモノサスに行った時、「旅行はどう?」と聞かれました。私は「東京の人は冷たくてあまり微笑みかけてくれませんが、格好いいです。」と返答しました。(特にコートを着てマスクをした人たちがとても格好良かったです。笑)でも日本では知らない人には微笑みかけるのは可笑しいんですよね…。東京の人たちは微笑みかけないのは当たり前のことかもしれません…(笑)。
今回の旅行は寂しかったですが、とても楽しかったです。自分の目で見て、体験して、世界を知って本当に楽しかったです。日本の文化も勉強できました。短い間ですが、いっぱい良い思い出ができました。旅行した時、夫と友達とペット(飼っている猫)に会いたかったです。困った時は愛している人たちに会いたくなります。今回の旅行は東京周辺だけでしたが、とても貴重な経験が出来た旅行だったと思っています。
ก่อนจะมาโตเกียวครั้งนี้ก็กังวลใจหลายอย่าง จะหลงทางมั้ย ผู้คนที่ได้ชื่อว่าอยู่ในมหานครที่มีค่าครองชีพสูงอันดับหนึ่งของโลกอย่างโตเกียวชีวิตความเป็นอยู่จะเป็นอย่างไร ฝูงคนที่ต้องรีบขึ้นรถไฟในตอนเช้าเพื่อทำงาน ใบหน้าภายใต้หน้ากากอนามัยนั้น ความเย็นชา จากหนังสือต่างๆได้จำกัดความไว้ ความเร่งรีบ ว่าจะเจอเหตุการณ์อะไรที่เราเผลอไปตัดสินคนเหล่านั้นอย่างมักง่ายหรือเปล่า ความรู้สึกหลังจากการท่องเที่ยวคนเดียวคราวนี้จะเป็นอย่างไร สิ่งเหล่านี้คือความคิดที่เกิดขึ้นทั้งๆยังไม่ได้ไปค่ะ พอวันที่มาโมโนสัสพอโดนถามว่าเป็นอย่างไรก็รีบพูดเลยค่ะ ว่าคนโตเกียวดูเย็นชา ไม่ยิ้มเเย้ม เเต่ก็หล่อค่ะ(โดยเฉพาะใบหน้าที่ใส่หน้ากากอนามัยใส้เสื้อโค้ทเดินข้ามทางม้าลาย อิอิ) หลายๆคนรีบบอกก็ธรรมดายังไม่รู้จักก็เเบบนี้เเหล่ะ ถ้าเดินยิ้มไปทั่วจะดูเเปลกมั้ยล่ะ ก็ถูกค่ะ 55
มาเที่ยวโตเกียวครั้งนี้สนุกมากค่ะ ได้เหงาเเบบที่เหงาลึกเข้าไปในใจค่ะ ทุกสิ่งสวยงามที่สุดในโลกคือสิ่งต่างๆที่เราได้มองผ่านสายตาของเรา การไปเที่ยวคนเดียวสำหรับเราคือทำให้ได้เรียนรู้วิถีชีวิต ความเป็นอยู่ ความเเตกต่างทางวัฒนธรรมความเชื่อ สิ่งใดทำให้พวกเขามีความสุขหรือมีความทุกข์ เเม้จะเป็นเวลาไม่นาน ก็พอรับรู้ได้ค่ะ เเต่ความรู้สึกเเน่นอนเเเน่ๆคือ คิดถึงเเฟนค่ะ คิดถึงครอบครัว คิดเพื่อน คิดถึงเเมวอ้วน คนที่เคยเจอกันทุกเมื่อเชื่อวันก็กลับกลายเป็นคนที่เราคิดถึงยามเมื่อเจอสิ่งสวยงามเเม้ยามกระทั้งยามที่ลำบาก การเดินทางบางทีอาจทำให้ความหมายของการกลับบ้านมีความหมายค่ะ